เศรษฐีอินเดีย ทุ่ม 9 ล้านบาท สร้าง ทัชมาฮาลจำลอง ให้เมียสุดที่รัก

เศรษฐีอินเดีย ทุ่ม 9 ล้านบาท สร้าง ทัชมาฮาลจำลอง ให้เมียสุดที่รัก

เพื่อแสดงความรักที่เขามีให้ภรรยาที่อยู่กินนานกว่า 27 ปี เศรษฐีอินเดีย ทุ่ม 9 ล้านบาท สร้าง ทัชมาฮาลจำลองให้ ขนาดกว่าหมื่นตารางฟุต เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม สำนักข่าว นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า นายอนันต์ ประกาศ ชุกเซย์ เศรษฐีเจ้าของธุรกิจโรงพยาบาลและโรงเรียนและเป็นมหาเศรษฐีชาวอินเดียทุ่มเงินเกือบ 9 ล้านบาทในการสร้างแบบจำลอง ทัชมาฮาล สิ่งมหัศจรรย์ของโลกให้กับภรรยาที่อยู่กินด้วยกันนาน 27 ปี

โดยงานจำลองนี้ใช้เวลาสร้างนาน 3 ปี 

และมีขนาดกว่า 10,000 ตารางฟุต สูง 8 เมตร ซึ่งเป็นขนาด 1 ใน 3 ของทัชมาฮาลของจริง สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนจากเมืองมกรานา ในรัฐราชสถาน ซึ่งเป็นแหล่งหินอ่อนที่ใช้สร้างทัชมาฮาลของจริง ขณะที่ภายในมีห้องนอน 4 ห้อง ห้องสมุด 1 ห้อง ห้องนั่งสมาธิ 1 ห้อง และห้องรับแขก มีเสาหินอ่อน บันไดเวียน และเพดานเคลือบทองคำ

นายชุกเซย์ให้สัมภาษณ์ว่าเขาเคยพูดเล่นๆว่า หากวันใดภรรยาเสียชีวิต เขาจะสร้างทัชามาฮาลให้ ซึ่งภรรยาก็ได้ตอบกลับมาว่าเธอไม่มีวันตาย ทำให้มหาเศรษฐีคนดังกล่าวจะสร้างทัชมาฮาลให้เธอตอนที่เธอยังมีชีวิตแทน

ทั้งนี้ภรรยาของเขามีคำขอเดียวคือมีห้องนั่งทำสมาธิที่ดี ส่วนที่เหลือนั้นภรรยาของเขายอมรับของขวัญจากสามีเสมอ ไม่ว่าจะเป็นทัชมาฮาล หรือไม่ก็ตาม โดยทัชมาฮาลจำลองนี้จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเยี่ยมชมในช่วงชั่วโมงเวลาเรียน

‘นกหวีดเทสลา’ สินค้าใหม่จาก อีลอน มัสก์ ราคา 1,500 บาท กระแสตอบรับดีมาก ขายหมดเกลี้ยงภายใน 1 ชั่วโมง เทสลา (Tesla) ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในบริษัทแห่งนวัตกรรมอนาคต เป็นผู้ผลิต รถยนต์ไฟฟ้า แนวหน้าของโลก มีเจ้าของคือ “อีลอน มัสก์” โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่อีลอน ปล่อยออกมามักเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีล้ำหน้า ไม่ว่าจะเป็นจรวด SpaceX หรือ อินเทอร์เน็ตดาวเทียม แต่ล่าสุด ทำให้ลูกค้าของบริษัทประหลาดใจเมื่อ เทสลาปล่อยสินค้าใหม่ออกมาคือ นกหวีด (Cyberwhistle)

ในเว็บไซต์ shop tesla ได้ลงขายนกหวีดสีเงินที่มีรูปร่างคล้ายรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทางผู้ผลิตนกหวีดได้อธิบายว่า ได้รับแรงบันดาลใจจาก Cybertruck นกหวีด Cyberwhistle รุ่นจำกัดคือของสะสมระดับพรีเมียมที่ทำจากสแตนเลสเกรดทางการแพทย์ที่มีการขัดเงา นกหวีดมีคุณสมบัติการแนบในตัวเพื่อเพิ่มความคล่องตัว

นกหวีดเทสลา สนนราคาอยู่ที่ 50 ดอลลาสหรัฐ หรือประมาณ 1,575 บาทไทย แต่แฟน ๆ ที่สนใจต้องรอของลอตใหม่หน่อย เพราะตอนนี้สินค้าหมดสต็อกแล้วในเวลาอันรวดเร็ว

นายกญี่ปุ่น อาจปรับ นโยบายเข้าญี่ปุ่น หลังสร้างความสับสนให้ ปชช.

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยอาจปรับ นโยบายเข้าญี่ปุ่น สำหรับประชาชนและชาวต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่น รับสร้างความสับสนให้ ปชช. เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม สำนักข่าว เกียวโด รายงานว่า นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมายอมรับว่านกฎการเข้าประเทศสำหรับประชาชนที่พำนักในญี่ปุ่น สร้างความสับสนให้กับประชาชนและชาวต่างชาติ พร้อมระบุว่าพวกเขาจะพิจารณาถึงนโยบายนี้อีกครั้ง

ขณะเดียวกันทางสายการบิน ANA และ JAL ที่ก่อนหน้านี้ปิดรับการจองเที่ยวบินขาเข้าญี่ปุ่นชั่วคราว ได้กลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถกลับมาจองเที่ยวบินได้แล้วอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศว่าประเทศญี่ปุ่นเตรียมจะกลับมาปิดประเทศอีกครั้งในวันอังคารนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดโอไมครอนที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้

โดยนายคิชิดะระบุว่าพวกเขาเลือกจะใช้มาตรการดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวอาจเป็นมาตรการเพียงชั่วคราว จนกว่าข้อมูลเกี่ยวกับโควิดโอไมครอนจะมีมากขึ้น ก่อนหน้านี้ทางการญี่ปุ่นได้สั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางจาก 9 ประเทศในทวีปแอฟริกาแล้ว ซึ่งเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางการญี่ปุ่นยืนยันว่าพบผู้ป่วยโอไมครอนแล้วหนึ่งราย

หมอใหญ่ของ สหรัฐฯ ได้ออกมาแจ้งข่าวว่าตอนนี้พบผู้ป่วย โอไมครอน แล้วหนึ่งราย เบื้องต้นอาการไม่รุนแรง พบฉีดวัคซีนครบแล้ว เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า นาย แอนโธนี เฟาซี อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อในสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันว่าพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนรายแรก โดยผู้ป่วยดังกล่าวมีประวัติเดินทางจากแอฟริกาใต้ในช่วงวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่อเมริกาใช้มาตรการสกัดโควิดโอไมครอน

โดยผู้ป่วยถูกพบว่าติดเชื้อในวันที่ 29 พฤศจิกายน และในขณะนี้อยู่ในระหว่างการกักตัว เบื้องต้นบุคคลใกล้ชิดไม่พบว่าป่วยเป็นโควิดแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจประวัติผู้ป่วยพบว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว แต่ยังไม่ได้รับวัคซีนกระตุ้น

ก่อนหน้านี้ ประเทศแคนาดา เพื่อนบ้านของสหรัฐฯ ประกาศว่าพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนแล้วสามราย โดยสองรายแรกพบว่าเป็นผู้ป่วยที่เพิ่งมีประวัติเดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย ขณะที่ผู้ป่วยรายที่สามเพิ่งถูกพบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ซึ่ง นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศว่าในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน พร้อมระบุว่าไม่มีความจำเป็นหากประชาชนชาวอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันโควิดและสวมหน้ากากอนามัย

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์กาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง